ทฤษฏีอะตอม
1.ทฤษฎีอะตอม ความคิดที่ว่าสสารประกอบด้วยอะตอมได้เริ่มตั้งแต่ก่อนคริสต์กาลประมาณ 400 ปีมาแล้ว และได้มีการปรับปรุงแก้ไขจนเป็นทฤษฎิอะตอมขึ้นซึ่งเรียงลำดับได้ดังนี้ 1.1 ดีโมครีตุส (Democritus) เป็นคนแรกที่เสนอทฤษฎีอะตอมของสสารขึ้น ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้ 1. สารทุกชนิดประกอบด้วยหน่วยที่เล็กที่สุดซึ่งไม่สามารถแยกต่อใปได้อีก เรียกว่าอะตอม และอะตอมนี้จะไม่มีการสูญหายหรือเกิดขึ้นใหม่ได้ 2. อะตอมของสารทุกชนิดจะเหมือนกันหมดแต่โครงสร้างการจับตัวของอะตอมของสารแต่ละชนิดจะไม่เหมือนกัน ดังนั้นสารต่างชนิดกันจึงมีอะตอมเหมือนกัน แต่การจับตัวของอะตอมต่างกันเท่านั้น 3. ที่ว่างระหว่างอะตอม (Void) อะตอมสามารถเคลื่อนที่ไปมาได้อย่างอิสระในที่ว่างนี้
1.2 อริสโตเติล (Aristotle) เป็นผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับทฤษฎีอะตอมของดีโมครีตุส ที่กล่าวว่าระหว่างอะตอมจะมีที่ว่าง เขาได้เสนอความคิดเห็นได้ดังนี้ สารทุกชนิดสามารถถูกแบ่งให้เล็กลงไปได้ โดยไม่มีที่สิ้นสุดและธาตุแท้ของสารทั้งหลายมีเพียงสี่อย่างเท่านั้นคือ " ดิน น้ำ ลม ไฟ " เนื่องจากขณะนั้นอริสโตเติลมีคนเลื่อมใสมากจึงทำให้ทฤษฎีอะตอมของดีโมครีตุสซบเซาไปเกือบสองพันปี ทฤษฎีอะตอมเริ่มกลับมาสู่ความเชื่อถือใหม่อีกครั้งหนึ่ง ประมาณต้นคริสต์ศตวรรษที่ 17 โดยมีสาเหตุดังต่อไปนี้ 1.ทอริเชอรี่ (Torricelli) สามารถประดิษฐ์เครื่องสูบอากาศ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าสูญอากาศหรือสภาพว่างเปล่านั้นมีจริง 2.ทฤษฎีกลศาสตร์ของกาลิเลโอและนิวตันแสดงให้เห็นว่าคำสอนของอริสโตเติลหลายตอนไม่เป็นจริงทำให้ความเชื่อถือในคำสอนของอริสโตเติลเสื่อมคลายลง 3.โรเบิตบอยล์ (Robert Boyle ) ได้ทำการทดลองและสรุปไว้ว่า "ที่อุณหภูมิคงที่ความดันของก๊าซจะแปรผันกลับกับปริมาตรของก๊าซและเบอนูลี่ (Bernoulli) ได้ทำการพิสูจน์กฏของบอยล์ โดยสมมติให้ก๊าซประกอบด้วยอนุภาคเล็กๆ (ซึ่งเรียกว่าโมเลกุล) วิ่งด้วยอัตราเร็วสูงและเกิดการชนกันตามกฏของนิวตัน ปรากฏว่าได้ผลออกมาตรงกับกฏของบอยล์ จึงเป็นการยืนยันได้ว่าอะตอมนั้นมีจริง 4.จากความเจริญของวิชาเคมี ได้มีการตั้งกฎทรงมวลและกฎสัดส่วนพหุคูณของปฏิกิริยาเคมีขึ้น จากกฎทั้งสองนี้ทำให้ดอลตันสร้างทฤษฎีอะตอมขึ้นสำเร็จประมาณต้นศตวรรษที่ 19
วันศุกร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2550
วันจันทร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2550
19 สิงหาคม 2550
สวัีสดีครับ
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมานั้น ทุก ๆ คนคงจะรู้กันดีแล้วนะครับว่าเป็นวันลงประชามติ ทางการอุตส่าห์ promote เสียยกใหญ่ หวังว่าทุก ๆ คนจะไปแสดงความคิดเห็นของตนเองนะครับ
แต่สำหรับผม อายุยังไม่ถึง จึงยังไม่มีสิทธิไปลงประชามติด้วย และอีกอย่าง ผมยังไม่ได้อ่านร่างรัฐธรรมนูญใหม่เลย ก็ยังไม่รู้เรื่องเลย
อย่างไรก็ตาม ทุก ๆ คนก็โปรดแสดงความคิดเห็นของตนเองด้วยความสุภาพเถิดครับ อย่าไปปลุกระดมสร้างความวุ่นวายให้บ้านเมืองเลย
เอาล่ะครับ มาฟังผลประชามติที่จะออกมากันดีกว่า ผลจะออกมาอย่างไรก็ไม่สามารถแก้ไขได้อีกแล้ว ฝ่ายที่มีเสียงน้อยกว่าก็ยอมรับความจริงกันดีกว่าครับ ถ้ามัวแต่เถียงกันประเทศก็ไม่เจริญหรอกครับ
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมานั้น ทุก ๆ คนคงจะรู้กันดีแล้วนะครับว่าเป็นวันลงประชามติ ทางการอุตส่าห์ promote เสียยกใหญ่ หวังว่าทุก ๆ คนจะไปแสดงความคิดเห็นของตนเองนะครับ
แต่สำหรับผม อายุยังไม่ถึง จึงยังไม่มีสิทธิไปลงประชามติด้วย และอีกอย่าง ผมยังไม่ได้อ่านร่างรัฐธรรมนูญใหม่เลย ก็ยังไม่รู้เรื่องเลย
อย่างไรก็ตาม ทุก ๆ คนก็โปรดแสดงความคิดเห็นของตนเองด้วยความสุภาพเถิดครับ อย่าไปปลุกระดมสร้างความวุ่นวายให้บ้านเมืองเลย
เอาล่ะครับ มาฟังผลประชามติที่จะออกมากันดีกว่า ผลจะออกมาอย่างไรก็ไม่สามารถแก้ไขได้อีกแล้ว ฝ่ายที่มีเสียงน้อยกว่าก็ยอมรับความจริงกันดีกว่าครับ ถ้ามัวแต่เถียงกันประเทศก็ไม่เจริญหรอกครับ
วันอังคารที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2550
แนะนำตัว
สวัสดีครับ
ผมชื่อ นายเขตภากร ชาครเวท (จ๊อบ) กำลังศึกษาอยู่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา
สำหรับ Blog นี้นั้นสร้างขึ้นเพราะเป็นส่วนหนึ่งของวิชาคอมพิวเตอร์ที่โรงเรียนครับ ผมว่าจะใส่เนื่อหาที่ผมสนใจลงใน Blog นี้ ก็น่าจะเกี่ยวกับพวกคณิตศาสตร์ แล้วก็เกี่ยวกับวิชาการ อาจจะมีเรื่องที่เกี่ยวกับผมเพิ่มเติม ฯลฯ
ผมชื่อ นายเขตภากร ชาครเวท (จ๊อบ) กำลังศึกษาอยู่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา
สำหรับ Blog นี้นั้นสร้างขึ้นเพราะเป็นส่วนหนึ่งของวิชาคอมพิวเตอร์ที่โรงเรียนครับ ผมว่าจะใส่เนื่อหาที่ผมสนใจลงใน Blog นี้ ก็น่าจะเกี่ยวกับพวกคณิตศาสตร์ แล้วก็เกี่ยวกับวิชาการ อาจจะมีเรื่องที่เกี่ยวกับผมเพิ่มเติม ฯลฯ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)